ผงจุลธาตุคีเลตรวมธาตุอาหารรอง+เสริม ไฮฟา ไมโคร คอมบิ Haifa Micro Combi (Cu+Fe+Mn+Mo+Zn) บรรจุ 20 กิโลกรัม

ผงจุลธาตุคีเลตรวมธาตุอาหารรอง+เสริม ไฮฟา ไมโคร คอมบิ Haifa Micro Combi (Cu+Fe+Mn+Mo+Zn) บรรจุ 20 กิโลกรัม
ผงจุลธาตุคีเลตรวมธาตุอาหารรอง+เสริม ไฮฟา ไมโคร คอมบิ Haifa Micro Combi (Cu+Fe+Mn+Mo+Zn) บรรจุ 20 กิโลกรัมผงจุลธาตุคีเลตรวมธาตุอาหารรอง+เสริม ไฮฟา ไมโคร คอมบิ Haifa Micro Combi (Cu+Fe+Mn+Mo+Zn) บรรจุ 20 กิโลกรัม
รหัสสินค้า 20KG-HFcombi
หมวดหมู่ คีเลตรวม
ราคา 9,600.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 8 พ.ย. 2567
อัพเดทล่าสุด 25 มิ.ย. 2568
จำนวน
ลัง
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

ผงจุลธาตุคีเลตรวมธาตุอาหารรอง+เสริม ไฮฟา ไมโคร คอมบิ Haifa Micro Combi (Fe,Mn,Zn,Cu,Mo) บรรจุ 20 กิโลกรัม 

ผลิตโดย บ. ไฮฟาเคมิคอล ประเทศอิสราเอล

Haifa Micro Combi ประกอบด้วยธาตุอาหารชนิด EDTA chelate mixture และอนินทรีย์สาร มีส่วนประกอบของ ธาตุอาหารรองและธาตอาหารเสริม ได้แก่

เหล็ก Fe 7.2% แมงกานีส Mn 3.6% ทองแดง Cu 0.9% สังกะสี Zn 1.2% โมลิบดินัม 0.6% (ธาตุเหล็กสูงกว่าคีเลตรวมสูตรอื่นๆ มาก)

Haifa Micro Combi เป็นปุ๋ยธาตุอาหารรอง-เสริมในรูปคีเลต ในอัตราส่วนที่เหมะสม ละลายน้ำได้เร็ว และสวามารถดูดซึมเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็วภายในต้นพืช

ใช้สำหรับ

1. ละลายน้ำเพื่อเป็นธาตุอาหารสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics)

2. ละลายน้ำเพื่อฉีดพ่นพืชโดยตรง โดยพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันอาการขาดธาตุอาหารของพืชทุกชนิด ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและความอุดมสมบูรณ์ของพืช 

อัตราการใช้ 3-5 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกส่วนของพืช ใช้ได้ดีกับ แตง ถั่วต่างๆ มะเขือ มะเขือเทศ ผักกาดหอม กะหล่ำ ไม้ประดับ ไม้ผลทุกชนิด พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับปะรด

หมายเหตุ ในการฉีดพ่น ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็น ที่แดดไม่จัด อากาศไม่ร้อน ลมไม่พัดแรงและคาดว่าฝนจะฝนตก ต้นพืชต้องไม่เหี่ยวเฉาหรือขาดน้ำ ไม่ควรฉีดพ่นจนเปียกโชก เพราะจะเป็นการสูญเสียปุ๋ยโดยไม่จำเป็น และไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนด

คีเลต คือ สารประกอบที่เกิดจากการจับตัวกันของอะตอมเชิงเดี่ยว (ธาตุอาหาร) กับ สารที่ทำงานเป็นคีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) สารที่ทำงานเป็นคีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) นี้จะจับกับธาตุอาหารและหุ้มธาตุอาหารไว้เพื่อทำให้อนุภาคของธาตุอาหารไม่ถูกยึดอยู่กับดิน เป็นผลให้เพิ่มการเคลื่อนย้ายของธาตุอาหารและทำให้ธาตุอาหารพร้อมสำหรับการดูดซึมของพืชได้มากขึ้น

ประโยชน์ของธาตุอาหารในรูปคีเลต

1. ช่วยป้องกันปัญหาการขาดธาตุอาหารรอง

2. ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดธาตุอาหารรอง

3. ช่วยป้องกันธาตุอาหารจากปฏิกิริยาระหว่างฟอสเฟตกับดิน

4. ช่วยเคลื่อนย้ายธาตุอาหารไปบริเวณไรโซสเฟียร์(ดินที่เกาะอยู่ตามบริเวณรอบรากพืช)จนถึงบริเวณที่มีการดูดซึมธาตุอาหาร การทำงานของคีเลต

1. คีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) จะป้องกันอนุภาคของธาตุอาหารจากปัจจัยที่ให้เกิดการเคลื่อนที่ไม่ได้หรือปัจจัยที่ทำให้เกิดการกีดขวางในดิน

2. นอกจากจะเพิ่มความสามารถในการละลายน้ำและเพิ่มการเคลื่อนที่ได้ของธาตุอาหารในดินแล้ว คีเลตติ้งเอเจนต์ยังช่วยธาตุอาหารในการเคลื่อนย้ายไปอยู่ในไรโซสเฟียร์ (ดินที่เกาะอยู่บริเวณรากพืช) ดีขึ้น

3. คีเลตติ้งเอเจนต์จะปล่อยธาตุอาหารเข้าไปในพืชและตัวมันจะถูกดูดซืมเข้าไปในไรโซสเฟียร์ (ราก)

4. การใช้คีเลตทำให้แน่ใจว่าพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้ดีที่สุด เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพเวลาเก็บเกี่ยว

ประโยชน์ของธาตุอาหารในรูปคีเลตแบบผงกับธาตุอาหารในรูปเดิมๆ

1. มีเสถียรภาพมากกว่าในดิน ธาตุอาหารที่ถูกปกป้องโดยคีเลตติ้งเอเจนต์จะไม่ทำปฏิกิริยากับธาตุอื่นๆที่อยู่ในดิน (เช่นคาร์บอนเนต, OM, สารประกอบ clay-humic เป็นต้น) ทำให้ธาตุอาหารพร้อมใช้อยู่ได้นานกว่า

2. มีเสถียรภาพมากว่าในถังผสมและระบบน้ำ

3. ได้ประสิทธิภาพที่สูงสุดด้วยปริมาณการใช้ที่ต่ำกว่า เนื่องจากธาตุอาหารในรูปคีเลตทำให้พืชสามารถนำไปใช้ได้ทั้งหมด

4. ละลายน้ำได้ดีและมีความเสี่ยงต่ำกับปัญหาดินเค็ม

5. เข้าได้กับเคมีเกษตรส่วนใหญ่รวมถึงปุ๋ยทางใบ

6. ง่ายทั้งการใช้งาน การขนส่ง และการเก็บรักษา

ธาตุเหล็ก (Fe) ธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบของโปรตีน และมีบทบาทสำคัญในการปรุงอาหารของพืช ช่วยกระตุ้นให้การหายใจและการปรุงอาหารของพืชเป็นไปอย่างสมบูรณ์ อาการขาดธาตุเหล็กจะแสดงออกทั้งทางใบและทางผล อาการเริ่มแรกจะสังเกตพบว่าใบอ่อนบริเวณเส้นใบยังคงมีคามเขียว แต่พื้นใบจะเริ่มเหลืองซีด ส่วนใบแก่ยังคงมีอาการปกติ ระยะต่อมาจะเหลืองซีดทั้งใบ ขนาดใบจะเล็กลงกว่าปกติและจะร่วงไปก่อนใบแก่เต็มที่ กิ่งแห้งตาย ส่วนอาการที่เกิดขึ้นกับผลผลิตคือผลผลิตจะลดลง ขนาดของผลเล็กและผิวไม่สวย ผิวเรียบและเกรียม การขาดธาตุเหล็กยังมีผลต่อการนเจริญของยอดอ่อนด้วย การแก้ไข ตามปกติช่งความเป็นกรด-ด่างของดินที่พืชสามารถนำธาตุเหล็กไปใช้ได้คือ ค่า pH ระหว่าง 5.5-5.6 แต่ถ้าค่า pH ต่ำกว่านี้ จะทำให้ปริมาณของธาตุเหล็กมีมากเกินไปจนก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อพืชได้ ธาตุเหล็กจะไปตรึงธาตุฟอสฟอรัสไว้จนพืชไม่สามารถนำไปใช้ได้ การแก้ไขด้วยการฉีดพ่นธาตุอาหารเสริมทางใบ เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการขาดธาตุเหล็กได้

ธาตุแมงกานีส (Mn) ธาตุนี้มีผลกระทบต่อใบ เนื่องจากมีบทบาทในการสั่งเคราะห์แสง เป็นตัวกระตุ้นการทำงานของน้ำย่อยในต้นพืช และยังควบคุมกิจกรรมของธาตุเหล็กและไนโตรเจนในต้นพืชอีกด้วย พืชที่ขาดธาตุแมงกานีสใบจะออกสีเหลือง ๆ ส่วนเส้นใบจะเขียวอยู่ปกติ โดยเฉพาะใบอ่อนอาจเกิดเป็นจุดขาว ๆ หรือจุดเหลืองที่ใบ ต้นโตช้า ใบไม่สมบูรณ์ พุ่มต้นโปร่ง ใบมีขนาดเล็กผิดปกติ มีจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ และอาจจะขยายวงกว้าง สำหรับในข้าวโพดมีแถบสีเหลืองแคบ ๆ ส่วนลักษณะที่แสดงลำต้นคือ ต้นพืชผอมโกร่ง มีขนาดเล็ก ติดผลน้อย

ธาตุทองแดง (Cu) หน้าที่ของธาตุทองแดง มีผลต่อพืชโดยอ้อม ในการสร้างส่วนที่เป็นสีเขียวของพืช ช่วยเพิ่มโมเลกุลของคลอโรฟิลล์ และป้องกันการถูกทำลายส่วนสีเขียว นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบของน้ำย่อยในพืช ซึ่งมีผลต่อการปรุงอาหารยังผลต่อการเจริญเติบโตและการติดดอกออกผล นอกจากนี้ธาตุทองแดงยังช่วยให้ต้นพืชสามารถดูดเอาธาตุเหล็กที่อยู่ในดินนำมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น อาการของพืชที่ขาดธาตุทองแดง ใบพืชจะมีสีเขียวจัดผิดปกติ แล้วต่อมาจะค่อย ๆ เหลืองลง ๆ โดยแสดงอาการจะยอดลงมาถึงโคน พืชผักบางอย่างแผ่นใบจะมีสีเหลือง บางอย่างใบจะยาวผิดปกติ เช่น ผักกาดหอม ลักษณะอาการที่แสดงที่ใบคือ ต้นพืชโตช้า ย่นและอ่อน ถ้าหัวหอมขาดธาตุแมงกานีสจะทำให้หัวหอมอ่อนนุ่ม เปลือกบาง สีขาวซีด อาการขาดธาตุทองแดงพบมากในเขตดินเปรี้ยว การใช้ปุ๋ยฟอสเฟตอาจช่วยได้ หรือฉีดพ่นด้วยธาตุอาหารเสริม (ที่มีทองแดงประกอบ) ทางใบ

ธาตุสังกะสี (ซิงค์) สังกะสีมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนพืช กล่าวคือ พืชที่ขาดธาตุสังกะสีจะให้ปริมาณฮอร์โมน IAA ในตายอดลดลง ทำให้ตายอดและข้อปล้องไม่ขยาย ใบออกมาซ้อน ๆ กัน นอกจากนี้ยังมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำย่อยของพืชหลายชนิดในการสร้างอาหารและสังเคราะห์แสง จึงมีผลทางอ้อมในการสร้างส่วนสีเขียวของพืช ใบเลี้ยงของถั่วฝักยาว มีจุดสีน้ำตาลแดง ใบข้าวโพดมีแถบสีเขียวเหลืองที่โคนใบ ส่วนถ้าขาดในผักกาด จะทำให้เส้นใบของหัวผักกาดแดงมีสีเหลืองและมีอาการไหม้ ส่วนลักษณะอาการที่ผลคือ ไหมของข้าวโพดจะโผล่ออกมาช้ากว่าปกติมาก ข้าวโพดมีฝักน้อย เพราะขาดการผสมพันธุ์ คีเลต คือ สารประกอบที่เกิดจากการจับตัวกันของอะตอมเชิงเดี่ยว (ธาตุอาหาร) กับ สารที่ทำงานเป็นคีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) สารที่ทำงานเป็นคีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) นี้จะจับกับธาตุอาหารและหุ้มธาตุอาหารไว้เพื่อทำให้อนุภาคของธาตุอาหารไม่ถูกยึดอยู่กับดิน เป็นผลให้เพิ่มการเคลื่อนย้ายของธาตุอาหารและทำให้ธาตุอาหารพร้อมสำหรับการดูดซึมของพืชได้มากขึ้น

ธาตุโมลิบดินัม (Mo) บทบาทและหน้าที่ของธาตุโมลิบดินัมในพืชนั้น ทำให้การทำงานของธาตุไนโตรเจนในพืชสมบูรณ์ขึ้น นอกจากนี้ ยังจำเป็นสำหรับขบวนการสร้างสารสีเขียวและน้ำย่อยภายในพืชบางชนิดด้วย พืชที่ขาดธาตุนี้ ที่ใบจะเป็นจุดด่าง ใบสีจางซีดผิดปกติ ในขณะที่เส้นใบยังเขียวอยู่ ถ้าขาดธาตุนี้รุนแรง ใบจะม้วยเข้าข้างใน ลักษณะที่ปลายและขอบใบจะแห้ง ดอกร่วง และผลเคระแกรนไม่เติบโตเต็มที่ กะหล่ำดอกมีใบที่แคบ ช่องระหว่างเส้นใบจะเหลือง ต้นพืชแคระแกร็น ผลมีขนาดเล็กลง ดอกกะหล่ำหลวมไม่แน่น

The benefits of Haifa Micro™ - micronutrients fertilizer

  • All micronutrients are in a chelated form, to maximize stability and efficiency
  • Haifa Micro™ chelates are absorbed by the plant rapidly and efficiently
  • Haifa Micro™ chelates are fully soluble in water
  • Compatibility with a wide range of agrochemicals enables tank-mixing, thus reducing the cost of spray operations by minimizing the number of application needed

The mechanism of chelates

Chelate is a complex of a micronutrient ion and an organic molecule that "holds" it, called ligand. As long as the ion is attached to the ligand, it is protected from interacting with other ions in the solution, which might turn it unavailable for plant uptake.

As the micronutrient ions are consumed by the plant, more ions are released from the holding ligands, thus becoming available for plant uptake.

 

This mechanism maximizes the efficiency of the micro nutrients applied. When Haifa Micro™ is applied by Nutrigation™, the chelates ensure availability of micronutrients in both alkaline and acidic soils.


Haifa Micro Combi is a stable, water soluble and non-dusting mixture of metal chelates; Iron, manganese, copper, zinc are present in EDTA chelated form.

Application
  • For foliar, side and top dressing, and for Hydroponic.
Appearance
  • Brown microgranules.
pH (1% solution)
  • 5-8
pH Stability range
  • 3-6.5.
Solubility in water
  • approx. 100 g/l (20 °C)
Bulk density untapped
  • approx. 500-650 kg/m3.
Storage
  • Store in original package in a dry place at ambient temperature
    (below 25°C). It is advised to re-test after three years of storage. Exposure to sunlight may cause degradation of the product.

Product analysis

Micronutrients

% (w/w)
soluble in water

EDTA-chelate (Min.)

Iron (Fe)

7.1

6.4

Manganese (Mn)

3.7

3.1

Zinc (Zn)

1.1

0.9

Copper (Cu)

0.8

0.7

Molybdenum (Mo)

0.5

as Ammonium molybdate

  • Raw materials: Ethylene diaminetetraacetic acid (EDTA) Salts of Fe, Mn, Zn, Cu.
    Ammonium Molyibdate
  • Product meets requirements for an EC-fertilizer.

OUR PRODUCTS

MEMBER

STATISTIC

หน้าที่เข้าชม1,449,289 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด562,118 ครั้ง
เปิดร้าน30 มิ.ย. 2558
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

CONTACT

0866586628
พูดคุย-สอบถาม