ปุ๋ยเกล็ด YVP ออคิเดนซ์ Orchident (พรีเมี่ยม) สุตร 28-6-5 สูตรเสริมสร้างการเจริญเติบโต บำรุงต้นใบ บรรจุ 1 กิโลกรัม

ปุ๋ยเกล็ด YVP ออคิเดนซ์ Orchident (พรีเมี่ยม) สุตร 28-6-5 สูตรเสริมสร้างการเจริญเติบโต บำรุงต้นใบ บรรจุ 1 กิโลกรัม
รหัสสินค้า 1K-OCD-28-6-5
หมวดหมู่ [1KG] N,P,K ปุ๋ยสูตรผสม
ราคา 50.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 29 ม.ค. 2567
อัพเดทล่าสุด 17 ต.ค. 2567
จำนวน
ถุง
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

ปุ๋ยเกล็ด ออคิเดนซ์ (พรีเมี่ยม) สุตร 28-6-5 บรรจุ 1 กิโลกรัม

สูตรเสริมสร้างการเจริญเติบโตและบำรุงต้น+ใบ

ใช้สำหรับ ละลายน้ำเพื่อฉีดพ่นพืชโดยตรง โดยพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือละลายน้ำรดหรือละลายให้ทางระบบน้ำหยด

ประกอบด้วย

ธาตุไนโตรเจน 28% ธาตุฟอสเฟสที่เป็นประโยชน์ 6% โพแทชเซียมที่ละลายน้ำ 5%

อัตราการใช้ 50-170 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร (0.5-1.7 กก. ต่อน้ำ 200 ลิตร) ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน

สามารถละลายน้ำได้ง่าย ไม่มีตะกอนและพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ได้ทันที

ปุ๋ยเกล็ดออคิเดนซ์ พรีเมี่ยม ปุ๋ยเกล็ดคุณภาพเยี่ยม แหล่งวัตถุดิบจากอิสราเอล เหมาะต่อการฉีดพ่นทางใบและให้ทางระบบน้ำ

ออคิเดนซ์ ปุ๋ยเกล็ดคุณภาพเยี่ยมแหล่งวัตถุดิบจากอิสราเอล 

• ผลิตจากแม่ปุ๋ยชั้นนำของโลก ทำให้ปุ๋ยเกล็ดออคิเดนซ์ละลายน้ำได้ 100% • นอกจากนี้ปุ๋ยเกล็ดออคิเดนซ์ มีธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริมครบถ้วนทั้ง 8 ชนิด คือ แมกนีเซียม(Mg), แคลเซี่ยม(Ca), เหล็ก(Fe), แมงกานีส(Mn), สังกะสี(Zn), โบรอน(ฺB), คอปเปอร์(Cu), โมลิบดินัม(Mo) • และปุ๋ยเกล็ดออคิเดนซ์ยังเสริมพลังด้วย "กรดอะมิโน" ซึ่งจะทำให้คุณภาพของปุ๋ยมีประโยชน์ต่อพืชเพิ่มมากขึ้นเนื่องจาก กรดอะมิโน มีส่วนสำคัญช่วยในการสังเคราะห์แสง ช่วยในการสร้างโปรตีน ช่วยลดความเครียดให้แก่พืชในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อากาศร้อนเกินไป อากาศเย็นจนเกินไปหรือภาวะน้ำมากเกินไป

ประโยชน์ของปุ๋ยเกล็ดออคิเดนซ์

• ช่วยให้พืชเจริญเติบโตและพื้นต้นได้ดีในระยะแรก ทั้งในพืชผัก ไม้ดอก ไม้ผล และกล้วยไม้ • ช่วยให้พืชแข็งแรง ทนทานต่อโรคและแมลง • ช่วยให้พืชติดตาดอกได้ดีขึ้น ทำให้ผลผลิตได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ ทั้งในพืชผักและไม้ผล • ในไม้ดอก กล้วยไม้ ทำให้ดอกสีสวย ดอกทน ไม่ร่วงง่ายและก้านดอกแข็งแรง ทนต่อการขนส่ง

ธาตุไนโตรเจน หน้าที่และความสำคัญต่อต้นพืช ช่วยทำให้พืชตัวตัวได้เร็วในระยะแรกของการเจริญเติบโต ช่วยเสริมใบและลำต้นให้มีสีเขียวเข้ม และช่วยเพิ่มปริมาณโปรตีนให้แก่พืชที่ใช้เป็นพืชอาหาร เช่น ข้าวหรือหญ้าเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องควบคุมการออกดอกออกผลของพืช ช่วยเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น โดยเฉพาะพืชที่ให้ผลและเมล็ด

อาการของพืชที่ขาดธาตุไนโตรเจน

1. ใบมีสีเขียวจางแล้วเหลือง โดยเฉพาะใบแก่ที่อยู่ตอนล่างของพืช ใบจะเหลืองผิดปกติจากใบล่างไปสู่ยอด

2. ลำต้นจะผอม กิ่งก้านลีบเล็ก และมีใบน้อย

3. พืชบางชนิดอาจจะมีลำต้นสีเหลือง หรืออาจจะมีสีชมพูเจือปนด้วย

4. ใบพืชที่มีสีเหลือง ปลายใบและขอบใบจะค่อย ๆ แห้งและลุกลามเข้ามาเรื่อย ๆ จนใบร่วงจากลำต้นก่อนกำหนด

5. พืชจะไม่เติบโต หรือโตช้ามาก

6. ผลรากหรือส่วนที่สะสมอาหารมีขนาดลดลง

ธาตุฟอสฟอรัส หน้าที่และความสำคัญต่อต้นพืช

1. ช่วยให้ราดดึงดูดโปแตสเซียมเข้ามาใช้เป็นประโยช์ได้มากขึ้น

2. ช่วยแก้ผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากพืชได้รับไนโตรเจนมากเกินไป

3. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากฝอยและรากแขนงในระยะแรกของการเจริญเติบโต

4. ช่วยเร่งให้พืชแก่เร็ว ช่วนในการออกดอก และสร้างเมล็ดของพืช

5. เพิ่มความต้านทานต่อโรคบางชนิด ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดี

6. ทำให้ลำต้นของพืชจำพวกข้างแข็งขึ้นไม่ล้มง่าย

อาการของพืชที่ขาดธาตุฟอสฟอรัส

1. พืชจะชะงักการเจริญเติบโต ต้นแคระแกรน พืชบางชนิดอาจจะมีลำต้นบิดเป็นเกลียว เนื้อไม้จะแข็ง แต่เปราะและหักง่าย

2. รากจะเจริญเติบโตและแพร่กระจายลงในดินช้างกว่าที่ควร ดอกและผลที่ออกมาไม่สมบูรณ์ หรือบางครั้งอาจหลุดร่วงไป หรืออาจมีขนาดเล็ก หรือค่อนข้างจะสุกหรือแก่ช้ากว่าปกติ

3. พืชจำพวกลำต้นอวบน้ำหรือลำต้นอ่อน ๆ จะล้มง่าย

4. ใบแก่จะเปลี่ยนสีหรือพืชบางชนิดใบจะเป็นสีม่วง ใบมีลักษณะสีม่วงแดงบนแผ่นใบ เส้นใบ และลำต้นจะเห็นเด่นชัด ทางด้านใต้ใบสำหรับฝั่งใบจะมีสีทึบเข้ม อาการจะเกิดขึ้นกับใบล่าง ๆ ของต้นขึ้นไปหายอด

ธาตุโปแตสเซียม หน้าที่และความสำคัญต่อต้นพืช

1. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก ทำให้รากดูดน้ำได้ดีขึ้น

2. มีความจำเป็นต่อการสร้างเนื้อของผลไม้ให้มีคุณภาพดี

3. ทำให้พืชมีคามต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศ

4. ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคต่าง ๆ

5. ช่วยป้องกันผลเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับพืช เนื่องจากการได้รับไนโตรเจนและฟอสฟอรัสเมากเกินไป

6. ช่วยเพิ่มคุณภาพของพืชผักและผลไม้ โดยทำให้พืชมีสีสัน ขนาด ความหวาน และคงทนต่อสภาวะแวดล้อมได้

อาการของพืชที่ขาดธาตุโปแตสเซียม

1. ขอบใบเหลือง และกลายเป็นสีน้ำตาล โดยเริ่มต้นจากปลายใบเข้าส่งกลางใบ ส่วนที่เป็นสีน้ำตาลจะแห้งเหี่ยวไป จะเกิดจากใบล่างก่อน แล้วจึงค่อย ๆ ลามขึ้นข้างบน พืชที่เห็นชัดคือข้าวโพด

2. ทำให้ผลผลิตตกต่ำ พืชจำพวกธัญพืชจะทำให้เมล็ดลีบ มีน้ำหนักเบา พืชหัวจะมีแป้งน้อยและน้ำมาก ข้าวโพดจะมีเมล็ดไม่เต็มฝัก ฝักจะเล็กมีรูปร่างผิดปกติ ใบยาสูบมีคุณภาพต่ำ ติดไฟยาก กลิ่นไม่ดี พืชจำพวกฝ้ายใบจะมีสำน้ำตาลปนแดง สมอฝ้ายที่เกิดขึ้นจะไม่อ้าเต็มที่เมื่อแก่ ถ้าเป็นมะเขือเทศเนื้อจะเละ

OUR PRODUCTS

MEMBER

STATISTIC

หน้าที่เข้าชม1,449,289 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด562,118 ครั้ง
เปิดร้าน30 มิ.ย. 2558
ร้านค้าอัพเดท7 ก.ย. 2568

CONTACT

0866586628
พูดคุย-สอบถาม