ผงจุลธาตุเหล็กคีเลตอีดีดีเอชเอ 6% (เหล็กม่วง) Dissolvine Q40 (EDDHA FE 6%; Aczonobel Netherland) บรรจุ 1 กิโลกรัม (R)

ผงจุลธาตุเหล็กคีเลตอีดีดีเอชเอ 6% (เหล็กม่วง) Dissolvine Q40 (EDDHA FE 6%; Aczonobel Netherland) บรรจุ 1 กิโลกรัม (R)
รหัสสินค้า 1KG-DSV-FeEDDHA
หมวดหมู่ [1KG] คีเลต Fe,Mn,Zn,Cu,Ca,Mg
ราคา 620.00 บาท
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
ลงสินค้า 16 พ.ค. 2561
อัพเดทล่าสุด 6 พ.ย. 2567
จำนวน
ถุง
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay

ผงจุลธาตุเหล็กคีเลตอีดีดีเอชเอ 6% (เหล็กม่วง) Dissolvine Q40 (EDDHA FE 6%; Aczonobel Netherland) บรรจุ 1000 กรัม

Librel EDDHA FE 6% ผลิตโดย บ. Aczonobel ประเทศ Netherland

หมายเหตุ ในรูปเป็นสินค้ากระสอบละ 25 กก.

ประกอบด้วยธาตุเหล็กในรูป EDDHA คีเลต 6% เรียกอีกอย่างว่า เหล็กม่วง (เหล็กคีเลตชนิดนี้ สามารถทนต่อ pH สูง ได้ดีกว่าเหล็กคีเลตชนิดอื่น เช่น Fe-EDTA/Fe-DTPA โดยทนต่อ pH ของสารละลายได้สูงถึง 10.5 จึงเหมาะสำหรับผสมในธาตุอาหารปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ระบบน้ำนิ่ง ที่ผู้ปลูกไม่ค่อยมีเวลาดูแลคอยปรับค่า pH)

เหล็ก อีดีดีเอชเอ เป็นปุ๋ยธาตุอาหารเสริมในรูปคีเลต อีดีดีเอชเอ (EDDHA) ที่สามารถทนสภาพความเป็นกรด ด่าง ได้มากกว่าเหล็กในรูปปกติทั่วไป ละลายน้ำได้เร็ว และสวามารถดูดซึมไปใช้ได้ทั้งทางรากและทางใบ สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็วภายในต้นพืช ใช้สำหรับ

1. ละลายน้ำเพื่อเป็นธาตุอาหารสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics)

2. ละลายน้ำเพื่อฉีดพ่นพืชโดยตรง โดยพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันอาการขาดธาตุเหล็กของพืชทุกชนิด ธาตุเหล็ก เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของคลอโรฟิลล์ ซึ่งมีความสำคัญในกระบวนการสังเคาระห์แสงของพืช และมีความจำเป็นต่อการทำงานของเอนไซม์หลายชนิดในพืช ทำให้พืชเติบโตได้ดีและมีผลผลิตมากขึ้น

อัตราการใช้

พืชผักและไม้ตัดดอก ใช้ 4-20 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ไม้ผล ใช้ 160-400 กรัม ต่อพื้นที่ปลูก 1 ไร่ พืชไร่ ใช้ 160-400 กรัม ต่อพื้นที่ปลูก 1 ไร่

หมายเหตุ ในการฉีดพ่น ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็น ที่แดดไม่จัด อากาศไม่ร้อน ลมไม่พัดแรงและคาดว่าฝนจะฝนตก ต้นพืชต้องไม่เหี่ยวเฉาหรือขาดน้ำ ฉีดพ่นเป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกส่วนของพืช ไม่ควรฉีดพ่นจนเปียกโชก เพราะจะเป็นการสูญเสียปุ๋ยโดยไม่จำเป็น และไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนด

ใช้สำหรับ

1. ละลายน้ำเพื่อเป็นธาตุอาหารสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics)

2. ละลายน้ำเพื่อฉีดพ่นพืชโดยตรง โดยพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับพืชที่ขาดธาตุเหล็ก ช่วยในการสังเคราะห์แสง สร้างเนื้อ ทำให้พืชแข็งแรง

คีเลต คือ สารประกอบที่เกิดจากการจับตัวกันของอะตอมเชิงเดี่ยว (ธาตุอาหาร) กับ สารที่ทำงานเป็นคีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) สารที่ทำงานเป็นคีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) นี้จะจับกับธาตุอาหารและหุ้มธาตุอาหารไว้เพื่อทำให้อนุภาคของธาตุอาหารไม่ถูกยึดอยู่กับดิน เป็นผลให้เพิ่มการเคลื่อนย้ายของธาตุอาหารและทำให้ธาตุอาหารพร้อมสำหรับการดูดซึมของพืชได้มากขึ้น

ประโยชน์ของธาตุอาหารในรูปคีเลต

1. ช่วยป้องกันปัญหาการขาดธาตุอาหารรอง

2. ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดธาตุอาหารรอง

3. ช่วยป้องกันธาตุอาหารจากปฏิกิริยาระหว่างฟอสเฟตกับดิน

4. ช่วยเคลื่อนย้ายธาตุอาหารไปบริเวณไรโซสเฟียร์(ดินที่เกาะอยู่ตามบริเวณรอบรากพืช)จนถึงบริเวณที่มีการดูดซึมธาตุอาหาร

การทำงานของคีเลต

1. คีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) จะป้องกันอนุภาคของธาตุอาหารจากปัจจัยที่ให้เกิดการเคลื่อนที่ไม่ได้หรือปัจจัยที่ทำให้เกิดการกีดขวางในดิน

2. นอกจากจะเพิ่มความสามารถในการละลายน้ำและเพิ่มการเคลื่อนที่ได้ของธาตุอาหารในดินแล้ว คีเลตติ้งเอเจนต์ยังช่วยธาตุอาหารในการเคลื่อนย้ายไปอยู่ในไรโซสเฟียร์ (ดินที่เกาะอยู่บริเวณรากพืช) ดีขึ้น

3. คีเลตติ้งเอเจนต์จะปล่อยธาตุอาหารเข้าไปในพืชและตัวมันจะถูกดูดซืมเข้าไปในไรโซสเฟียร์ (ราก)

4. การใช้คีเลตทำให้แน่ใจว่าพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้ดีที่สุด เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพเวลาเก็บเกี่ยว

ประโยชน์ของธาตุอาหารในรูปคีเลตแบบผงกับธาตุอาหารในรูปเดิมๆ

1. มีเสถียรภาพมากกว่าในดิน ธาตุอาหารที่ถูกปกป้องโดยคีเลตติ้งเอเจนต์จะไม่ทำปฏิกิริยากับธาตุอื่นๆที่อยู่ในดิน (เช่นคาร์บอนเนต, OM, สารประกอบ clay-humic เป็นต้น) ทำให้ธาตุอาหารพร้อมใช้อยู่ได้นานกว่า

2. มีเสถียรภาพมากว่าในถังผสมและระบบน้ำ

3. ได้ประสิทธิภาพที่สูงสุดด้วยปริมาณการใช้ที่ต่ำกว่า เนื่องจากธาตุอาหารในรูปคีเลตทำให้พืชสามารถนำไปใช้ได้ทั้งหมด

4. ละลายน้ำได้ดีและมีความเสี่ยงต่ำกับปัญหาดินเค็ม

5. เข้าได้กับเคมีเกษตรส่วนใหญ่รวมถึงปุ๋ยทางใบ

6. ง่ายทั้งการใช้งาน การขนส่ง และการเก็บรักษา

ธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบของโปรตีน และมีบทบาทสำคัญในการปรุงอาหารของพืช ช่วยกระตุ้นให้การหายใจและการปรุงอาหารของพืชเป็นไปอย่างสมบูรณ์

อาการขาดธาตุเหล็กจะแสดงออกทั้งทางใบและทางผล อาการเริ่มแรกจะสังเกตพบว่าใบอ่อนบริเวณเส้นใบยังคงมีคามเขียว แต่พื้นใบจะเริ่มเหลืองซีด ส่วนใบแก่ยังคงมีอาการปกติ ระยะต่อมาจะเหลืองซีดทั้งใบ ขนาดใบจะเล็กลงกว่าปกติและจะร่วงไปก่อนใบแก่เต็มที่ กิ่งแห้งตาย ส่วนอาการที่เกิดขึ้นกับผลผลิตคือผลผลิตจะลดลง ขนาดของผลเล็กและผิวไม่สวย ผิวเรียบและเกรียม การขาดธาตุเหล็กยังมีผลต่อการนเจริญของยอดอ่อนด้วย การแก้ไข ตามปกติช่งความเป็นกรด-ด่างของดินที่พืชสามารถนำธาตุเหล็กไปใช้ได้คือ ค่า pH ระหว่าง 5.5-5.6 แต่ถ้าค่า pH ต่ำกว่านี้ จะทำให้ปริมาณของธาตุเหล็กมีมากเกินไปจนก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อพืชได้ ธาตุเหล็กจะไปตรึงธาตุฟอสฟอรัสไว้จนพืชไม่สามารถนำไปใช้ได้ การแก้ไขด้วยการฉีดพ่นธาตุอาหารเสริมทางใบ เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการขาดธาตุเหล็กได้

OUR PRODUCTS

MEMBER

STATISTIC

หน้าที่เข้าชม1,449,619 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด562,448 ครั้ง
เปิดร้าน30 มิ.ย. 2558
ร้านค้าอัพเดท8 ก.ย. 2568

CONTACT

0866586628
พูดคุย-สอบถาม